ประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการตรวจวัด และการวิเคราะห์ผลการตรวจวัดระดับความเข้มข้นของสารเคมี พ.ศ.2559
5,275 views    
        
ด้าน :
เคมี
เรื่อง :
-
ลำดับกฎหมาย :
ประกาศกรม
การนำไปใช้ในมหาวิทยาลัย :
มีไว้อ้างอิง
วันที่ประกาศ :
27 ธันวาคม 2559
วันที่มีผลบังคับใช้ :
25 มิถุนายน 2560
ประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการตรวจวัด และการวิเคราะห์ผลการตรวจวัดระดับความเข้มข้นของสารเคมี พ.ศ.2559

สาระสำคัญ

"การตรวจวัด" หมายความว่า การเก็บตัวอย่างสารเคมีอันตรายในบรรยากาศของสถานที่ทำงานและสถานที่เก็บรักษาสารเคมีอันตรายเพื่อนำมาวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ

หมวด 1 : บททั่วไป

นายจ้างต้องจัดให้มีการตรวจวัดและวิเคราะห์ระดับความเข้มข้นของสารเคมีอันตรายในบรรยากาศของสถานที่ทำงานและสถานที่เก็บรักษาสารเคมีอันตรายอย่างน้อย ปีละ 1 ครั้ง

- กรณีที่ระดับความเข้มข้นของสารเคมี มีระดับเกินขีดจำกัดความเข้มข้นของสารเคมี : ให้นายจ้างใช้มาตรการกำจัด หรือ ควบคุมสารเคมีอันตรายทางวิศวกรรมและการบริหารจัดการสภาพแวดล้อม เพื่อลดระดับความเข้มข้นของสารเคมีไม่ให้เกินขีดจำกัดที่กำหนด พร้อมทั้งตรวจวัดและวิเคราะห์ระดับความเข้มข้นของสารเคมีอันตราย ภายใน 30 วันนับจากวันที่ปรับปรุงแก้ไขเรียบร้อย
-กรณีผลตรวจสุขภาพของลูกจ้างมีความผิดปกติหรือเจ็บป่วยอันเนื่องจากการทำงานเกี่ยวกับสารเคมีอันตราย : ให้นายจ้างตรวจวัดและวิเคราะห์ระดับความเข้มข้นของสารเคมีอันตราย ภายใน 30 วัน หลังจากที่นายจ้างได้รับทราบผลความผิดปกติ หรือ เจ็บป่วยอันเนื่องจากการทำงานเกี่ยวกับสารเคมีอันตราย

-กรณีมีการปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลง ชนิดหรือปริมาณของสารเคมีอันตราย เครื่องจักร อุปกรณ์ กระบวนการผลิต วิธีการทำงาน หรือวิธีการดำเนินการใด ๆ ที่อาจมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงระดับความเข้มข้นของสารเคมีอันตรายในบรรยากาศของสถานที่ทำงาน และสถานที่เก็บรักษาสารเคมีอันตราย : ให้นายจ้างดำเนินการตรวจวัดและวิเคราะห์ระดับความเข้มข้นของสารเคมีอันตราย ภายใน 30 วันนับจากวันที่มีการปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลง


หมวด 2 : การตรวจวัด และการวิเคราะห์สารเคมีอันตรายทางห้องปฏิบัติการ

นายจ้างต้องใช้วิธีการ เครื่องมือ และอุปกรณ์ที่เป็นมาตรฐานสากล หรือ เป็นที่ยอมรับ โดยอ้างอิงหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง ดังนี้

1) สถาบันความปลอดภัยและอาชีวอนามัยแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา (The National Institute for Occupational Safety and Health : NIOSH)

2) สำนักงานบริหารความปลอดภัยและอาชีวอนามัย สหรัฐอเมริกา (Occupational Safety and Health Administration : OSHA)

3) สมาคมนักสุขศาสตร์อุตสาหกรรมภาครัฐ สหรัฐอเมริกา (American Conference of Government Industrial Hygienists : ACGIH)

4) สมาคมความปลอดภัยและสุขภาพอนามัยในอุตสาหกรรม ประเทศญี่ปุ่น (Japan Industrial Safety and Health Assocciation : JISHA)

5) องค์การระหว่างประเทศว่าด้วยมาตรฐาน (International Organization for Standardization : ISO)

6) สำนักมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.)

7) สมาคมการทดสอบและวัสดุอเมริกา (America Society for Testing and Material : ASTM)


หมวด 3 :  คุณสมบัติของผู้ดำเนินการตรวจวัดและผู้ดำเนินการตรวจวิเคราะห์สารเคมีอันตรายทางห้องปฏิบัติการ

- ผู้ดำเนินการตรวจวัด ต้องมีคุณสมบัติตามที่กฎหมายนี้กำหนด

- ผู้ดำเนินการวิเคราะห์สารเคมีอันตรายทางห้องปฏิบัติการ ต้องมีคุณสมบัติตามที่กฎหมายนี้กำหนด


หมวด4 : การจัดทำรายงานผลการตรวจวัดและวิเคราะห์ระดับความเข้มข้นของสารเคมีอันตราย

- นายจ้างจัดให้มีการรายงานผลการตรวจวัดและวิเคราะห์ระดับความเข้มข้นของสารเคมีอันตรายในบรรยากาศของสถานที่ทำงานและสถานที่เก็บรักษาสารเคมีอันตรายที่ได้รับการรับรองจากผู้ดำเนินการตรวจวัด และส่งรายงานฉบับนี้ให้กับ อธิบดี หรือ ผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมาย ภายใน 15 วันนับจากวันที่ทราบผล ด้วยตนเอง หรือทางไปรษณีย์ หรือทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศ


ศึกษากฎหมายฉบับเต็ม  และแบบรายงานผลตรวจวัดและวิเคราะห์ระดับความเข้มข้นของสารเคมีอันตรายในบรรยากาศของสถานที่ทำงานและสถานที่เก็บรักษาสารเคมีอันตราย ตามไฟล์แนบท้ายนี้



กฎหมายฉบับเต็ม
 ประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการตรวจวัด และการวิเคราะห์ผลการตรวจวัดระดับความเข้มข้นของสารเคมี (101 KB)