ระบบบริหารจัดการความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อมในการทำงาน ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยประกอบด้วย
(อ้างอิงจาก คณะกรรมการความปลอดภัยด้านเคมี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. ระบบการจัดการความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. กรุงเทพฯ: ศูนย์ความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (ศปอส.), 2560.
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้นำแนวคิดการจัดการเพื่อความปลอดภัยในห้องปฏิบัติการเป็นผลผลิตจากงานวิจัยโครงการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยห้องปฏิบัติการวิจัยในประเทศไทย (Enhancement of Safety Practice of Research Laboratory in Thailand, ESPReL) ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ให้การสนับสนุนจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นแกนนำในการดำเนินงาน โดยศูนย์ความเป็นเลิศด้านการจัดการสารและของเสียอันตราย และสถาบันวิจัยสภาวะแวดล้อม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ดำเนินการพัฒนาระบบและเครื่องมือการบริหารจัดการความปลอดภัยห้องปฏิบัติการที่คำนึงถึงองค์ประกอบ 7 ด้าน ต่อมารู้จักกันในชื่อ ESPReL และ ESPReL Checklist ที่สามารถใช้สำรวจและประเมินความปลอดภัยด้วยตนเองให้เห็นอันตรายและความเสี่ยงในด้านต่าง ๆ เมื่อระบุสาเหตุของอันตรายได้จึงเข้าไปลดความเสี่ยงนั้นๆ ได้อย่างแม่นยำ ตรงเป้า และ ESPReL Checklist นี้คือเครื่องมือนำไปสู่ 7 องค์ประกอบของการบริหารจัดการความปลอดภัยที่สัมพันธ์และเชื่อมโยงกันแสดงดังรูป
7 องค์ประกอบหลักของการบริหารจัดการความปลอดภัย
แต่ละองค์ประกอบชี้ให้เห็นความเสี่ยงหลักแต่ละด้านที่สัมพันธ์กับความเสี่ยงด้านอื่น ๆ องค์ประกอบดังกล่าวประกอบด้วย
1. การบริหารระบบการจัดการความปลอดภัย
เริ่มต้นที่นโยบายมหาวิทยาลัยและแผนงานด้านความปลอดภัย ซึ่งถ่ายทอดลงมาเป็นนโยบายและแผนปฏิบัติในทิศทางเดียวกันสำหรับการบริหารทุกระดับ แต่รายละเอียดของการปฏิบัติอาจมีความเฉพาะเจาะจงตามลักษณะงานของแต่ละแห่งได้ มีการกำหนดบทบาทหน้าที่ ความรับผิดชอบชัดเจน และสามารถสื่อสารความสำคัญของการมีระบบการจัดการ ในรูปของเอกสาร แผน รายงาน โครงสร้างการบริหารระบบ ตลอดจนกิจกรรม เพื่อนำไปจัดสรรทรัพยากรด้านบุคลากร กำลังคน และงบประมาณสนับสนุนการปฏิบัติงานได้
2. ระบบการจัดการวัสดุในห้องปฏิบัติการ
จัดทำสารบบของสารเคมี วัสดุกัมมันตรังสี สารชีวภาพ (materials inventories) เพื่อมีระบบการจัดการที่ดี ทั้งระบบข้อมูล การจัดเก็บ การเคลื่อนย้าย และการจัดการสารที่ไม่ใช้แล้ว สำหรับสารบบของสารเคมี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้จัดชุดบริหารจัดการ ChemTrack & WasteTrack2016 ไว้ให้บริการ เพื่อให้ผู้บริหารทุกระดับ รวมทั้งผู้ปฏิบัติที่เป็นผู้ป้อนข้อมูลสามารถเข้าถึงข้อมูลสารได้อย่างถูกต้องและเป็นปัจจุบัน สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการจัดการความเสี่ยง การแบ่งปันสาร การจัดสรรงบประมาณ สำหรับห้องปฏิบัติการด้านชีวภาพและด้านรังสียังต้องมีการจัดการข้อมูลสารชีวภาพและวัสดุกัมมันตรังสี เพื่อรายงานตามกฎหมายด้วย
3. ระบบการจัดการของเสียอันตราย
แนวทางและการบริหารจัดการสอดคล้องกับระบบการจัดการวัสดุในห้องปฏิบัติการ โดยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้จัดชุดบริหารจัดการ ChemTrack & WasteTrack2016 ไว้รองรับข้อมูล ติดตามความเคลื่อนไหวของของเสียที่เกิดขึ้นในห้องปฏิบัติการโดยห้องปฏิบัติการต้องแยกประเภทของเสียอันตรายตามเกณฑ์ที่กำหนด เก็บในภาชนะที่ระบุประเภทของเสีย ปริมาณ แหล่งที่มา และผู้รับผิดชอบ มีการนัดหมายกับผู้ดูแลระบบ เพื่อรวบรวมส่งไปกำจัดโดยหน่วยงานภายนอกที่ได้รับอนุญาต ข้อมูลเหล่านี้จะถูกประมวลออกมาเป็นรายงานที่แสดงถึงแนวโน้มของปริมาณของเสีย รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการกำจัดของแต่ละส่วนงาน
4. ลักษณะทางกายภาพของห้องปฏิบัติการ อุปกรณ์และเครื่องมือ
ประกอบด้วยข้อมูลเชิงสถาปัตยกรรม ลักษณะอาคาร (ภายนอก และภายในอาคาร) สภาพแวดล้อมภายในห้อง เครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ มีการดูแลรักษาและพร้อมใช้งาน งานวิศวกรรมต่าง ๆ เช่น งานโครงสร้าง ระบบไฟฟ้า งานสุขาภิบาลและสิ่งแวดล้อม ระบบระบายอากาศและปรับอากาศ รวมทั้งงานระบบฉุกเฉิน อุปกรณ์ฉุกเฉิน และระบบติดต่อสื่อสาร ของพื้นที่การใช้งานจริง เอื้อต่อการทำงานอย่างปลอดภัยทั้งในภาวะปกติและฉุกเฉิน
5. ระบบการป้องกันและแก้ไขภัยอันตราย
ต้องมีระบบการบริหารความเสี่ยงจากข้อมูลจริงในทุก ๆ ด้าน มีลำดับความคิดตั้งต้นจากการระบุปัจจัยเสี่ยงและการประเมินความเสี่ยง มีแผนป้องกันและความพร้อมการตอบโต้เหตุฉุกเฉิน ควรมีการกำหนดข้อปฏิบัติเพื่อความปลอดภัย กำหนดแผนฉุกเฉิน การปฏิบัติตามขั้นตอนที่กำหนด การฝึกซ้อม และการตรวจสอบอุปกรณ์เพื่อรองรับภาวะฉุกเฉิน ส่วนงานควรมีแผนผังทางหนีไฟที่ปรากฎให้เห็นอย่างชัดเจน เส้นทางหนีไฟต้องไม่มีสิ่งกีดขวาง มีป้ายเตือน มีอุปกรณ์ป้องกันภัยส่วนบุคคลที่เหมาะสม เพียงพอ และอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ และมีลำดับขั้นการติดต่อแจ้งเหตุที่ชัดเจนและเชื่อมโยงกับระบบกลางของอาคาร ของคณะ สถาบัน และของมหาวิทยาลัย
6. การให้ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับความปลอดภัยในห้องปฏิบัติการ
ต้องมีการสร้างความตระหนักและการให้ความรู้พื้นฐานที่จำเป็น เหมาะสม และอย่างต่อเนื่องแก่ผู้เกี่ยวข้องแต่ละกลุ่มเป้าหมายซึ่งมีบทบาทต่างกัน ตั้งแต่อาจารย์ เจ้าหน้าที่ นักวิจัย นิสิต พนักงานทำความสะอาด ผู้เข้าเยี่ยมชม รวมทั้งผู้ที่เข้ามาให้หรือรับบริการเป็นครั้งคราว มีการประเมินและกำหนดเงื่อนไขการผ่านการประเมิน ส่วนงานควรมีแผนการให้ความรู้กับบุคลากรทุกระดับ มีระบบประเมินผลระดับความรู้ที่ได้รับ และมีกิจกรรมที่จะนำไปสู่กระบวนการสร้างจิตสำนึก นอกจากหลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มต่าง ๆ ในฐานะผู้ใช้แล้ว ยังมีหลักสูตรเพื่อพัฒนาผู้บริหาร คณะกรรมการความปลอดภัย ตลอดจนกลุ่มผู้ดูแลห้องปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องกับ สารเคมี สารรังสี สารชีวภาพ
7. การจัดการข้อมูลและเอกสาร
ต้องมีระบบเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานอย่างปลอดภัยซึ่งเน้นที่ตัวระบบมากกว่าบุคคล สามารถสื่อสารให้เข้าใจตรงกันและส่งงานต่อกันได้เมื่อเปลี่ยนผู้รับผิดชอบ และใช้ต่อยอดความรู้ในทางปฏิบัติ ให้การพัฒนาความปลอดภัยเป็นไปได้อย่างต่อเนื่อง มีการกำหนดระดับความรับผิดชอบ โครงสร้างของระบบการบันทึกข้อมูลและการจัดเก็บข้อมูลและเอกสาร ประกอบด้วย รหัสเอกสาร ชื่อเอกสาร ประเภทของเอกสาร (ควบคุม – ไม่ควบคุม) ผู้รับผิดชอบ ผู้ครอบครอง สถานที่จัดเก็บ วันที่บันทึกข้อมูล และปรับปรุงข้อมูล เป็นเอกสารที่ใช้ปฏิบัติงานฉบับล่าสุด และเข้าถึงได้ง่าย โดยจัดเก็บในรูปของเอกสารหรือเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ และมีบัญชีหลักของเอกสาร
(อ้างอิงจาก คณะกรรมการความปลอดภัยด้านเคมี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. ระบบการจัดการความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. กรุงเทพฯ: ศูนย์ความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (ศปอส.), 2560.)
เพื่อให้การดำเนินงานเกิดผลเป็นรูปธรรม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ยึดแนวคิดเพื่อความปลอดภัย ESPReL ที่มี 7 องค์ประกอบ พร้อมทั้งพัฒนาเพิ่มเติมขึ้นเป็นชุดบริหารจัดการ ESPReL ใช้เป็นกลไกเพื่อเก็บ จัดการ และประมวลข้อมูลขององค์ประกอบต่าง ๆ ชุดบริหารจัดการดังกล่าวประกอบด้วย ระบบจัดการข้อมูลห้องปฏิบัติการ ระบบสารสนเทศวัสดุในห้องปฏิบัติการ ควบคู่กับ Building Information Modeling (BIM) ซึ่งเป็นระบบแสดงข้อมูลทางกายภาพ (อาคารและส่วนประกอบด้านสาธารณูปโภค) โดยมีเครื่องมือสำคัญคือ ESPReL/BSL/RS Checklists ที่ใช้สำรวจห้องปฏิบัติการและเก็บข้อมูลของแต่ละองค์ประกอบผ่านระบบออนไลน์ ทำให้เห็นการจัดการและสภาพความเสี่ยงด้านต่าง ๆ ได้ด้วยตนเอง ผลที่ได้ยังแสดงจุดแข็ง จุดอ่อน ด้านต่าง ๆ ซึ่งห้องปฏิบัติการสามารถแก้ไขจุดอ่อนเพื่อยกระดับการจัดการความปลอดภัยห้องปฏิบัติการอย่างเหมาะสมและเป็นขั้นตอน
กลไกขับเคลื่อน ระบบบริหารจัดการความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อม
(อ้างอิงจาก คณะกรรมการความปลอดภัยด้านเคมี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. ระบบการจัดการความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. กรุงเทพฯ: ศูนย์ความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (ศปอส.), 2560.)
ข้อมูลห้องปฏิบัติการควรแสดงถึงภาพรวมของห้องปฏิบัติการในเชิง จำนวน ขนาด ประเภท การใช้งาน (เช่น ความเกี่ยวข้องกับสารเคมี วัสดุกัมมันตรังสี หรือสารชีวภาพ) ที่ตั้งของห้องปฏิบัติการ (เลขที่ ชั้น อาคาร) ภาพรวมในระดับต่าง ๆ ภาควิชา คณะ/ส่วนงาน มหาวิทยาลัย ทั้งนี้ห้องปฏิบัติการควรมีการปรับปรุงข้อมูลให้เป็นปัจจุบันและสม่ำเสมอ
วัสดุในห้องปฏิบัติการส่วนใหญ่เป็นวัสดุที่นำมาใช้เพื่อการเรียนการสอน การวิจัย และการบริการวิชาการ อันได้แก่ สารเคมี วัสดุกัมมันตรังสี และสารชีวภาพ วัสดุเหล่านี้เป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญของห้องปฏิบัติการ ดังนั้น การมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันและระบบจัดการข้อมูลที่มีประสิทธิภาพจึงเป็นเงื่อนไขสำคัญในระดับต้น ๆ ต่อการบริหารความเสี่ยง เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการทำงาน
ระบบจัดการข้อมูลสารเคมีและของเสียอันตราย
การจัดการข้อมูลสารเคมีและของเสียทางเคมีใช้โปรแกรม ChemTrack & WasteTrack2016 โดยมีข้อกำหนดให้ผู้ที่จะใช้บริการการนำของเสียไปกำจัดต้องลงทะเบียนและนำเข้าข้อมูลสารเคมีด้วย ในส่วนของ ChemTrack มีโครงสร้างที่สามารถใช้งานในการบริหารจัดการสารเคมี เช่น
ในส่วนของ WasteTrack สามารถบันทึกข้อมูลการเก็บและติดตามความเคลื่อนไหวของประเภทของเสียอันตรายตามเกณฑ์ที่กำหนด เริ่มจากห้องปฏิบัติการบรรจุของเสียในภาชนะที่ระบุประเภทของเสีย ปริมาณ แหล่งที่มา และผู้ผลิตของเสียนั้น ๆ ให้ชัดเจน และจะมีผู้รับผิดชอบจากส่วนกลางนัดหมาย เพื่อรวบรวมส่งไปกำจัดโดยหน่วยงานภายนอกที่ได้รับอนุญาต WasteTrack สามารถรายงานของเสีย ระบุปริมาณ รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการกำจัดของแต่ละส่วนงานได้
ระบบจัดการข้อมูลวัสดุกัมมันตรังสีและของเสียอันตราย
วัสดุกัมมันตรังสีเป็นปัจจัยเสี่ยงชนิดหนึ่งที่จำเป็นต้องมีระบบเพื่อจัดเก็บข้อมูลเพื่อใช้ในการจัดการ กำกับดูแลและการตรวจสอบ แต่นอกเหนือจากระบบข้อมูลที่เกี่ยวข้องดังกล่าวแล้ว ควรมีการกำกับดูแลข้อมูลที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ด้วย ได้แก่
ข้อมูลห้องปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องกับด้านรังสี ซึ่งเป็นข้อมูลในระบบข้อมูลห้องปฏิบัติการ และข้อมูลสภาพความปลอดภัยของห้องปฏิบัติการ
ระบบจัดการข้อมูลสารชีวภาพและของเสียอันตราย
ระบบข้อมูลการจัดการสารชีวภาพเพื่อใช้ในการกำกับดูแลความปลอดภัยในกิจกรรมต่าง ๆ ได้แก่
![]() |
ศูนย์ความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
โทร.: 0 2218 5222, 09 9132 6622 (ในวันและเวลาราชการ) 09 9132 6622 (เฉพาะกรณีฉุกเฉิน ตลอด 24 ชั่วโมง) | |
อีเมล: shecu@chula.ac.th |
จำนวนผู้เข้าชม | |||
|
|||
12 ตุลาคม 2562 |