ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 17) ลงวันที่ 6 มกราคม 2564
416 views    
    [6 ม.ค. 64]    

สรุปสาระสำคัญ

ตามที่ได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2563 และต่อมาได้ขยายระยะเวลาบังคับใช้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าวออกไปอย่างต่อเนื่องนั้น และเพื่อกำหนดมาตรการต่าง ๆ ที่จำเป็นในการระบาดระลอกใหม่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดที่จำเป็นต้องมีมาตรการที่เข้มงวด นายกรัฐมนตรีจึงออกข้อกำหนดและข้อปฏิบัติแก่ส่วนราชการทั้งหลาย ดังต่อไปนี้

1. การยกระดับการบังคับใช้มาตรการป้องกันโรค ให้เจ้าหน้าที่ฯ ดูแลรับผิดชอบ สถานที่ กิจกรรม หรือกิจการต่าง ๆ ให้ผู้ใช้บริการ ผู้เดินทาง ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด สนับสนุนให้ติดตั้งและใช้งาน แอปพลิเคชัน "หมอชนะ" ควบคู่กับ "ไทยชนะ" โดยเฉพาะบุคคลที่อยู่ในเขตพื้นที่สถานการณ์ที่กำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด ทั้งนี้เพื่อให้การสอบสวนโรคและการเฝ้าระวังโรคเป็นไปด้วยความรวดเร็ว

2. การยกระดับพื้นที่ควบคุมสูงสุดที่จำเป็นต้องมีมาตรการเข้มงวดอย่างยิ่ง ให้ตั้งจุดคัดกรองเข้มข้น ในจังหวัด จันทบุรี ชลบุรี ตราด ระยอง และสมุทรสาคร และให้ผู้ที่อยู่ในเขตพื้นที่ดังกล่าวติดตั้งและใช้งาน แอปพลิเคชัน "หมอชนะ" โดยบุคคลที่ประสงค์จะเดินทางออกนอกพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดต้องแสดงเหตุผลความจำเป็นพร้อมแสดงบัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรแสดงตนอื่น ๆ ควบคู่กับเอกสารรับรองความจำเป็นที่ออกโดยพนักงานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องหรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในพื้นที่ 

3. การปราบปรามและลงโทษผู้กระทำความผิดอันเป็นเหตุให้เกิดการระบาดของโรค  รัฐบาลมีเจตจำนงที่ชัดเจนและเด็ดขาดในการปราบปรามบุคคลใดก็ตามที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการลักลอบขนย้ายแรงงานต่างประเทศ การเอื้ออำนวยให้เปิดบ่อนการพนัน ซึ่งเป็นต้นตอในการระบาดของโรคแบบเป็นกลุ่มก้อนจนส่งผลกระทบอย่างรุนแรง

4. โทษผู้ฝ่าฝืนข้อกำหนดฯ อาจต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปีหรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


อ่านรายละเอียดได้ที่ : ข้อกำหนด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฉบับที่ 17