ข่าวเหตุการณ์เด็กนักเรียนเสียชีวิตบนรถโรงเรียน เหตุมาจากความประมาทของผู้ที่เกี่ยวข้อง สะท้อนความตระหนักเรื่องความปลอดภัยของรถรับ-ส่งนักเรียน เป็นประเด็นความปลอดภัยที่ต้องทบทวนและยกระดับความปลอดภัยที่ได้มาตรฐานเพิ่มมากขึ้น  มาตรการ 3E ป้องกันการ “ลืม” เด็กในรถโรงเรียน เป็นแนวทางหนึ่งที่โรงเรียน ผู้ปกครอง ผู้ให้บริการรถรับ-ส่ง สามารถนำไปปรับใช้ป้องกันการ “ลืม” เด็กและเพิ่มความตระหนักเรื่องความปลอดภัยในการใช้รถรับ-ส่งนักเรียนให้เพิ่มมากขึ้น

E-Education  มาตรการให้ความรู้

เด็ก ผู้ปกครอง คนขับ ครู และผู้ที่เกี่ยวข้อง ควรได้รับความรู้เกี่ยวกับอันตรายจากความร้อนและการขาดอากาศหายใจจากการติดอยู่ในรถซึ่งอาจทำให้ถึงขั้นเสียชีวิตได้ พร้อมเสนอแนวทางการป้องกันการ “ลืม” เด็กในรถโรงเรียนให้กับคุณครูและคนขับรถที่ต้องตระหนัก ใส่ใจ ด้านความปลอดภัยในการดูแลนักเรียนให้มากขึ้น และสอนให้เด็กรู้จักวิธีการเอาตัวรอดหากติดอยู่บนรถ

E- Enforcement มาตรการบังคับใช้กฎหมายและข้อบังคับ

ปัจจุบันมีระเบียบข้อบังคับทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในการใช้รถรับส่งนักเรียน เช่น แนวปฏิบัติในการควบคุมดูแลการใช้รถโรงเรียน ตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการดูแลและควบคุมการใช้รถโรงเรียน พ.ศ. 2536  และ พ.ร.บ.การขนส่งทางบก พ.ศ.2522 ที่กำหนดให้ผู้ประกอบการรถรับ-ส่งนักเรียน ซึ่งมีที่นั่งเกินกว่า 12 ที่นั่ง หรือรถบัสต้องยื่นขอจดทะเบียนและขอใบอนุญาตประกอบการขนส่งนักเรียนเป็นการเฉพาะ พร้อมทั้งต้องติดตั้งอุปกรณ์ความปลอดภัยประจำรถเพิ่มเติมด้วย 

นอกจากนี้ทางโรงเรียนสามารถออกกฎระเบียบและแนวปฏิบัติเพื่อความปลอดภัยในการรับ-ส่ง นักเรียนได้ตามบริบทของโรงเรียน ซึ่งสามารถกำหนดให้ครู  คนขับรถ และผู้ที่เกี่ยวข้องต้องตรวจตราหรือนับจำนวนเด็กหลังการรับ-ส่งนักเรียนถึงจุดหมายและก่อนการจอดรถทุกครั้ง

E- Engineering มาตรการป้องกันในทางวิศวกรรม 

การใช้เทคโนโลยีทางวิศวกรรมมาเป็นเครื่องมือช่วยป้องกันเด็กติดค้างในรถโรงเรียน อาทิ การออกแบบและติดตั้งสัญญานแจ้งเหตุเตือนภัยชนิดพิเศษไว้ในบริเวณส่วนท้ายของรถโรงเรียน  เมื่อดับเครื่องยนต์สัญญานแจ้งเหตุเตือนภัยจะดังขึ้น คนขับรถหรือคุณครูจะต้องไปปิดสัญญานด้านหลังรถ ซึ่งจะทำให้คนขับหรือคุณครูได้ตรวจตราเด็กที่อาจหลงอยู่ในรถอีกครั้ง รวมถึงสัญญานเตือนที่มีเสียงดังจะช่วยให้เด็กรู้สึกตัวตื่นและแสดงตัวเพื่อขอลงจากรถได้

มาตรการที่ร่วมดูแลด้านความปลอดภัยของเด็ก ๆ ซึ่งจะเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ในอนาคต นอกจากจะเพิ่มความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน ยังเป็นตัวอย่างที่ดีเรื่องความตระหนักใส่ใจ ต่อความปลอดภัยของตนเองและคนรอบข้าง นับเป็นส่วนหนึ่งที่เสริมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยในเชิงป้องกันให้กับสังคม