การจัดการเพลิงไหม้อย่างปลอดภัยกับอาคารประเภทต่าง ๆ
862 views    
  นางสาวพีรดา สุนทระ  [17 มี.ค. 68]    

          อัคคีภัยเป็นภัยพิบัติที่สามารถสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินได้อย่างมหาศาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอาคารที่มีผู้คนอาศัยหรือใช้งานเป็นจำนวนมาก การป้องกันและลดความเสี่ยงจากอัคคีภัยจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่เจ้าของอาคารหรือผู้ดูแลอาคารต้องให้ความใส่ใจ การปฏิบัติตามกฎหมายอาคารอย่างเคร่งครัดไม่เพียงแต่เพื่อให้อาคารมีความปลอดภัยเท่านั้น แต่ยังเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อชีวิตและความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัยและผู้ใช้งานอาคารทุกคน

          การบริหารจัดการอาคารประเภทต่างๆ ที่มีประสิทธิภาพจึงต้องให้ความสำคัญกับมาตรการป้องกันและระงับอัคคีภัยอย่างครบวงจร โดยมีองค์ประกอบสำคัญที่ต้องดำเนินการ ดังนี้ การติดตั้งระบบป้องกันอัคคีภัยการตรวจสอบและบำรุงรักษา การฝึกอบรมและซ้อมดับเพลิงและการปฏิบัติตามกฎหมายหรือมาตรฐาน เป็นต้น

          การเกิดเพลิงไหม้ หรืออัคคีภัย เป็นอันตรายที่เกิดจากไฟที่ขาดการควบคุมดูแล ทำให้เกิดการจุดติดลุกลามอย่างต่อเนื่อง สร้างความเสียหายให้แก่ชีวิต ทรัพย์สิน และสิ่งแวดล้อม โดยไฟจะเกิดขึ้นได้นั้นจะต้องมีองค์ประกอบ 3 อย่าง หรือที่เรามักจะเรียกกันว่า สามเหลี่ยมแห่งไฟ เมื่อองค์ประกอบทั้งสามครบ จะทำให้เกิดการลุกติดของไฟ องค์ประกอบทั้ง 3 (รูปที่ 1) ได้แก่

  1. ความร้อน เช่น การเสียดสี ประกายไฟ และฟ้าผ่า เป็นต้น
  2. ออกซิเจน ปริมาณที่มากกว่า 16% จะทำให้เกิดการติดไฟ
  3. เชื้อเพลิง ที่ทำให้เกิดการลุกไหม้แบ่งออกเป็น 3 สถานะ ได้แก่ ของแข็ง ของเหลว ก๊าซ

รูปที่ 1 สามเหลี่ยมแห่งไฟ
ที่มาของรูป : https://www.ka-safety.com/17965899/องค์ประกอบของไฟและประเภทเชื้อเพลิง


          เมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้นแล้ว การที่จะเข้าดับไฟที่เกิดขึ้นแล้วในเบื้องต้น เราจำเป็นต้องมีความรู้ในการเลือกใช้เครื่องดับเพลิงมือถือให้เหมาะสมกับประเภทของเชื้อเพลิงและรู้จักวิธีการดับเพลิงที่ถูกต้อง ประเภทของไฟแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ดังแสดงในตารางที่ 1


ตารางที่ 1 ประเภทของไฟ สัญลักษณ์ เชื้อเพลิง และเครื่องดับเพลิง

ที่มา : กฎกระทรวง กำหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดำเนินการ ด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อม ในการทำงานเกี่ยวกับการป้องกันและระงับอัคคีภัย พ.ศ. 2555
ที่มาของรูป : https://www.pinthong-group.com/tab/detail.php?id=39

          เมื่อรู้จักประเภทของไฟแล้ว วิธีการใช้ถังดับเพลิงก็มีความสำคัญ หากดับเพลิงต้องดับที่ต้นตอ โดยมี 4 ขั้นตอนสำคัญ ที่เรียกว่า ดึง-ปลด-กด-ส่าย โดยมีลักษณะการปฏิบัติ (รูปที่ 2) ดังต่อไปนี้

  1. ดึง สลักออกจากคันบีบ
  2. ปลด สายฉีดจากที่เก็บโดยการงัดขึ้น
  3. กด คันบีบลงโดยใช้สันมือกด นิ้วโป้งให้วางขนานไว้บนคันบีบ
  4. ส่าย จับปลายสายฉีดไปที่ฐานของไฟ ส่วยหัวฉีดคลุมฐานไฟ เว้นระยะห่างจากฐาน 2-4 เมตร

รูปที่ 2 วิธีการใช้ถังดับเพลิง ดึง ปลด กด ส่าย
ที่มาของรูป : https://firewize.com.au/learn/how-use-fire-extinguisher


          เหตุการณ์เพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นโดยส่วนใหญ่มักเกิดภายในที่อยู่อาศัย บ้านเรือน และอาคารต่าง ๆ เมื่อเกิดขึ้นแล้วมักสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินอย่างมหาศาล เช่น เหตุการณ์เพลิงไหม้โรงแรม รอยัล จอมเทียน รีสอร์ต พัทยา เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2540 ที่สร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก โดยเหตุการณ์ในครั้งนี้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 91 ราย และผู้บาดเจ็บอีกจำนวนกว่า 63 ราย สาเหตุของความเสียหายที่เกิดขึ้นนี้เกิดจากหลายปัจจัย เช่น การติดตั้งระบบป้องกันและระงับอัคคีภัยที่ไม่เหมาะสมหรือไม่พร้อมใช้งาน เนื่องจากโรงแรมก่อสร้างก่อนกฎหมายควบคุมอาคาร พ.ศ. 2535 ที่กำหนดให้อาคารสูงต้องมีการติดตั้งระบบป้องกันและระงับอัคคีภัย เช่น ระบบแจ้งเตือนเหตุเพลิงไหม้ ระบบระงับอัคคีภัย เป็นต้น จากเหตุการณ์ดังกล่าวและอีกหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงมีการประกาศกฎหมายที่เกี่ยวกับการจัดเตรียมอาคารให้มีความพร้อมในการรับมือเมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ ทั้งอาคารที่ก่อสร้างหลัง พ.ศ. 2535 ให้ดำเนินการตาม กฎกระทรวง ฉบับที่ 33 (พ.ศ. 2535) ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 และอาคารเก่าที่ก่อสร้างสร้างก่อนปี พ.ศ. 2535 ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดเหตุเพลิงไหม้ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายสูงให้ดำเนินการตาม กฎกระทรวง ฉบับที่ 47 (พ.ศ. 2540) ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522


ระบบป้องกันเหตุเพลิงไหม้ของอาคารประเภทต่าง ๆ
          อาคารที่มีลักษณะแตกต่างกันย่อมมีขั้นตอนในการป้องกัน ควบคุม และจัดการด้วยวิธีที่แตกต่างกัน อาคารที่มีพื้นที่ใช้สอยมากหรือมีความสูงมากมักมีความเป็นอันตรายค่อนข้างสูงและส่งผลกระทบในเชิงกว้างมากกว่าอาคารขนาดเล็กที่ป้องกันและควบคุมได้ง่ายกว่าเมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ ดังนั้น จึงขอยกตัวอย่างระบบป้องกันเหตุเพลิงไหม้ของอาคารประเภทต่าง ๆ ดังนี้

         ห้องแถว บ้านแถว และบ้านแฝดที่มีความสูงไม่เกิน 2 ชั้น ต้องติดตั้งเครื่องดับเพลิงแบบมือถืออย่างใดอย่างหนึ่งตามชนิดและขนาดที่กำหนดไว้จำนวนคูหาละ 1 เครื่อง ต้องมีระบบสัญญาณเตือนเพลิงไหม้ติดตั้งอยู่ในอาคารอย่างน้อย 1 เครื่อง ทุกคูหา โดยอุปกรณ์ส่งสัญญาณเตือนเพลิงไหม้สามารถส่งเสียงหรือสัญญาณให้คนที่อยู่ในอาคารได้ยินหรือทราบอย่างทั่วถึงเพื่อให้หนีไฟ (มาตรฐานระดับความดังของเสียงขณะวัดที่หมอนต้องไม่น้อยกว่า 75 เดซิเบลเอ) (กฎกระทรวง ฉบับที่ 39 (พ.ศ. 2537) ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522)

         อาคารสูง เป็นอาคารที่มีบุคคลเข้าอยู่หรือใช้สอยได้ โดยมีความสูงตั้งแต่ 23 เมตรขึ้นไป และอาคารขนาดใหญ่พิเศษ เป็นอาคารที่ก่อสร้างขึ้นเพื่อใช้อาคารหรือส่วนใดส่วนหนึ่งของอาคารเป็นที่อยู่อาศัยหรือประกอบกิจการ โดยมีพื้นที่รวมกันทุกชั้นหรือชั้นใดชั้นหนึ่งในหลังเดียวกันตั้งแต่ 10,000 ตารางเมตรขึ้นไป (กฎกระทรวง ฉบับที่ 33 (พ.ศ. 2535) ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522) (รูปที่ 3) มีระบบป้องกันเหตุเพลิงไหม้ที่ต้องจัดให้มีตามกฎหมายกำหนด (ตารางที่ 2)

รูปที่ 3 ลักษณะทางกายภาพของอาคารสูงและอาคารขนาดใหญ่พิเศษ


ตารางที่ 2 ระบบป้องกันเหตุเพลิงไหม้ของอาคารสูงและ/หรืออาคารขนาดใหญ่พิเศษ

ระบบป้องกันเหตุเพลิงไหม้

ประเภทอาคาร

พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร
ฉบับ 50 (พ.ศ.2540)

ข้อ

สูง

ใหญ่พิเศษ

ผนังกันไฟ

/

/

  • ผนังอิฐธรรมดาหนา ≥ 18 ซ.ม.
  • ผนังทึบที่ทำด้วยวัสดุทนไฟย่างอื่นที่มีคุณสมบัติในการป้องกันไฟไม่น้อยกว่าอิฐธรรมดาหนา 18 ซ.ม.
  • ผนังคอนกรีตเสริมเหล็กหนา ≥12 ซ.ม.

1

การระบายอากาศโดยธรรมชาติ

/

/

  • พื้นที่ช่องเปิดต้องเปิดได้ ≥ ร้อยละ 10 ของพื้นที่

9

ลิ้นกันไฟ

/

/

  • ปิดสนิทโดยอัตโนมัติ เมื่ออุณหภูมิ > 74oC
  • ทนไฟได้ ≥1.30 ช.ม.

10

ระบบป้องกันอันตรายจากไฟฟ้า

/


- เสาล่อฟ้า สายล่อฟ้า
  • สายนำลงดินมีภาคตัดขวางเทียบได้ไม่น้อยกว่าสายทองแดงตีเกลียว ขนาด 30 ตร.มม.

13

ไฟฟ้าสำรองกรณีฉุกเฉิน

/

/

  • จ่ายพลังงาน ≥2 ชั่วโมง เครื่องหมาย ทางเดิน บันได
  • จ่ายตลอดเวลาสำหรับลิฟต์ดับเพลิง เครื่องสูบน้ำดับเพลิง ห้องช่วยชีวิตฉุกเฉิน ระบบสื่อสาร

14

ระบบสัญญาณเตือนเพลิงไหม้

/

/

  • ต้องมีทุกชั้น
  • สามารถส่งเสียงหรือสัญญาณให้ทราบอย่างทั่วถึง
  • แจ้งเหตุอัตโนมัติ

16

ตู้หัวฉีดน้ำดับเพลิง

/

/


18(2)

  • สายฉีดน้ำดับเพลิง
  • เส้นผ่านศูนย์กลาง 25 มม. (1 นิ้ว)
  • หัวต่อชนิดสวมเร็ว
  • เส้นผ่านศูนย์กลาง 65 มม. (2½ นิ้ว)
  • ระยะห่างระหว่างตู้
  • ≤64 เมตร
  • ความยาวสายฉีดน้ำดับเพลิง
  • ≤30 เมตร
ที่เก็บน้ำสำรอง

/


  • ความดันต่ำสุดที่ชั้นสูงสุดไม่น้อยกว่า 0.45 เมกะปาสเมตร แต่ไม่เกิน 0.7 เมกะปาสกาเมตร
  • อัตราการไหล 30 ลิตร/วินาที

18(3)

เครื่องดับเพลิงแบบมือถือ

/

/

  • 1 เครื่องต่อพื้นที่อาคาร ≤1,000 ตร.ม.
  • ทุกระยะ ≤45 เมตร
  • ชั้นละ ≥1 เครื่อง
  • ส่วนบนสุดของเครื่องจากระดับพื้น ≤1.5 ม.
  • บรรจุสารเคมี ≥4 กก.

19

ระบบดับเพลิงอัตโนมัติ

/

/

  • Sprinkler System
  • ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดทุกชั้น

20

บันไดหนีไฟ

/


  • จากชั้นสูงสุดสู่พื้นดิน ≥2 บันได
  • แต่ละบันไดอยู่ห่าง ≤60 เมตร
  • ลำเลียงคนออกนอกอาคารภายใน 1 ชม.

22

ประตูหนีไฟ

/


  • ทำด้วยวัสดุทนไฟ
  • ติดตั้งอุปกรณ์ชนิดที่บังคับให้ปิดเองได้
  • ความกว้าง ≥90 ซ.ม. สูง ≥1.90 เมตร
  • ไม่มีชั้นหรือธรณีประตูหรือขอบกั้น
  • ทนไฟได้ = ผนังนั้น (≥2 ชม.)

27

ลิฟต์ดับเพลิง

/


  • อย่างน้อย 1 ชุด
  • จอดได้ทุกชั้นของอาคาร
  • โถงหน้าลิฟต์ดับเพลิงต้องติดตั้งตู้ฉีดน้ำดับเพลิง
  • ระบบอัดลมภายในห้องโถงหน้าลิฟต์มีความดัน ≥3.86 ปาสกาลมาตร ทำงานอัตโนมัติเมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้
  • ระยะเวลาในการเคลื่อนที่จากชั้นล่างสุดกับชั้นบนสุด ไม่เกิน 1 นาที

44


          เมื่อมีระบบและอุปกรณ์ประกอบอาคารในการเตรียมความพร้อมและรองรับเวลาเกิดเหตุเพลิงไหม้แล้ว เราผู้ซึ่งอยู่ในอาคารจำเป็นต้องรู้จักวิธีการเอาตัวรอดเมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเราอยู่บนอาคารสูงหรืออาคารขนาดใหญ่พิเศษ


6 ขั้นตอนในการปฏิบัติตนเพื่อเอาตัวรอดจากเหตุการณ์เพลิงไหม้ มีดังนี้

  1. หนีทันที เมื่อได้ยินเสียงสัญญาณเพลิงไหม้
  2. โทรแจ้ง เจ้าหน้าที่ดับเพลิง
  3. หาผ้าชุบน้ำ ปิดปาก ปิดจมูก หรือหาถุงพลาสติกครอบศีรษะ แล้วคลานต่ำหนี
  4. ห้ามใช้ลิฟต์ ขณะเกิดเหตุเพลิงไหม้
  5. กรณีที่เปลวไฟอยู่หน้าห้อง ห้ามเปิดประตู ใช้ผ้าชุบน้ำปิดบริเวณช่องประตู
  6. กรณีไฟไหม้ภายห้อง ให้รีบหนีออกมา


ที่สำคัญ หากประสบพบเหตุเพลิงไหม้ที่ไม่สามารถระงับเหตุได้ด้วยตนเอง ให้รีบติดต่อศูนย์รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้และสาธารณภัย เบอร์โทร 199


ข้อแนะนำเพิ่มเติมสำหรับการตรวจสอบและเก็บรักษาเครื่องดับเพลิงแบบมือถือ
          เครื่องดับเพลิงแบบมือถือ คือเครื่องดับเพลิงซึ่งมีลักษณะเป็นอุปกรณ์ที่เคลื่อนย้ายได้โดยสะดวกและใช้งานด้วยมือ ภายในบรรจุสารดับเพลิงซึ่งสามารถขับออกได้โดยใช้แรงดัน เป็นอุปกรณ์ป้องกันเหตุเพลิงไหม้ที่สำคัญชนิดหนึ่งที่จำเป็นต้องมีประจำอาคาร ดังนั้นจึงต้องมีการตรวจสอบและเก็บรักษาให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานอยู่เสมอ ด้วยขั้นตอนพื้นฐาน 7 วิธี ดังนี้

  1. ตรวจสอบแรงดันที่มาตรวัดถังจะต้องอยู่ในช่องสีเขียวเสมอ
  2. ตรวจสอบการขยับของสารเคมีภายในถัง
  3. ลักษณะถังต้องไม่มีความเสียหาย ไม่ยุบ บวม หรือมีรอยร้าว
  4. ก้านสลักพร้อมสายต้องอยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อมใช้งาน
  5. ทำการทดสอบแรงดันของถังทุก ๆ  5 ปี
  6. ถังดับเพลิงจะต้องมีอายุไม่เกิน 15 ปี
  7. ถังดับเพลิงต้องไม่อยู่ในบริเวณที่มีแดดส่องถึงอยู่ตลอดเวลา


          เหตุเพลิงไหม้เป็นอุบัติการณ์ที่อาจส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อชีวิต ทรัพย์สิน และสิ่งแวดล้อม ดังนั้นผู้อยู่อาศัยหรือผู้ดูแลอาคารต้องมั่นตรวจสอบระบบการป้องกันเหตุ แผนในการควบคุมความเสี่ยง และปฏิบัติตามกฎหมายพระราชบัญญัติควบคุมอาคารอย่างเคร่งครัดเพื่อความปลอดภัยในการอยู่อาศัยภายในอาคาร


          หมายเหตุ: ถอดความบางส่วนจากที่ประชุมเครือข่ายด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน จุฬาฯ ครั้งที่ 4/2567 (ประชุมออนไลน์ผ่าน Zoom) เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2567 ของศูนย์ความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย”


เอกสารอ้างอิง

          กฎกระทรวง กำหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดำเนินการด้านความปอดลภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับการป้องกันและระงับอัคคีภัย พ.ศ. 2555 (ข้อ 1)

          กฎกระทรวง ฉบับที่ 33 (พ.ศ. 2535) ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522

          กฎกระทรวง ฉบับที่ 39 (พ.ศ. 2537) ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 หมวดที่ 1 (ข้อ 3) (ข้อ 4)

          กฎกระทรวง ฉบับที่ 47 (พ.ศ. 2540) ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522

          กฎกระทรวง ฉบับที่ 50 (พ.ศ. 2540) ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522

          เอกสารประกอบการอบรม เรื่อง Basic Fire. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร


 การจัดการเพลิงไหม้อย่างปลอดภัยกับอาคารประเภทต่าง ๆ (2 MB)