ไดคลอโรมีเทน (Dichloromethane) สารเคมีอันตรายที่ไม่ควรมองข้าม
646 views    
  ดร.องอาจ ธเนศนิตย์  [1 มิ.ย. 66]    

ไดคลอโรมีเทนหรือที่รู้จักว่า เมทิลีนคลอไรด์ (methylenechlorideเป็นสารเคมีอินทรีย์ชนิดหนึ่ง ที่ถูกนำมาใช้งานอย่างแพร่หลาย ทั้งในภาคอุตสาหกรรม ภาคการเกษตร ภาครัฐ เนื่องด้วยสมบัติเฉพาะตัวของไดคลอโรมีเทนที่มีจุดเดือดต่ำ สามารถละลายสารประกอบอินทรีย์ได้หลากหลายชนิดจึงถูกนำมาใช้งานเป็นตัวทำละลายในกระบวนการต่าง ๆ ทางเคมี อย่างไรก็ตาม ไดคลอโรมีเทนเป็นสารเคมีอันตรายที่ผู้ปฏิบัติงานมักมองข้ามความเป็นอันตราย หากมีการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับไดคลอโรมีเทนที่ไม่ปลอดภัยเช่น การใช้งาน การจัดเก็บ การเคลื่อนย้ายและการกำจัด ผู้ปฏิบัติงานจะมีความเสี่ยงสูงที่จะได้รับสัมผัสและเกิดอันตรายได้นอกจากนี้ ไดคลอโรมีเทนยังเป็นสารในกลุ่มเฮโลอัลเคน (haloalkaneที่มีความเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมสามารถทำลายโอโซนในชั้นบรรยากาศ ทำให้รังสีที่เป็นอันตรายผ่านเข้ามายังพื้นโลกได้มากขึ้น1-2 จากข้อมูลรายงานของสํานักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมสหรัฐอเมริกา3 (EPAพบมีจำนวนผู้เสียชีวิตจากการทำงานที่เกี่ยวข้องกับไดคลอโรมีเทน ในประเทศสหรัฐอเมริกา ไม่น้อยกว่า 85 คน (นับตั้งแต่ปี ..2524)  โดยส่วนใหญ่เป็นคนงานในธุรกิจการต่อเติมบ้าน

1ข้อมูลโดยทั่วไปเกี่ยวกับไดคลอโรมีเทน1,2

ไดคลอโรมีเทน เป็นของเหลวใสไม่มีสี มีกลิ่นเฉพาะคล้ายอีเทอร์ สามารถระเหยได้ง่าย มีจุดเดือดและไวไฟต่ำ ดังแสดงในภาพที่ 1 ไดคลอโรมีเทน ถูกนำมาใช้ในกระบวนการทางเคมีต่าง ๆ ทั้งในทางอุตสาหกรรม การเกษตร และงานวิจัยในห้องปฏิบัติการ ตัวอย่างเช่น

  • ใช้เป็นตัวทำละลายในอุตสาหกรรมการผลิตต่าง ๆ เช่น โฟม พลาสติก ยาง ยา
  • ใช้เป็นน้ำยาลอกหรือกำจัดสี เช่น ล้างสีจากภาพวาด ลอกสีออกจากชิ้นงานโลหะ
  • ใช้เป็นสารกำจัดไขมันสำหรับทำความสะอาดโลหะ เช่น กำจัดคราบไขมันบนพื้นผิวโลหะ
  • ใช้เป็นสารรมควันในการไล่แมลง
  • ใช้เป็นสารเคมีในห้องปฏิบัติการ


2ผลกระทบทางสุขภาพจากไดคลอโรมีเทน1,2

หากได้รับสัมผัสไดคลอโรมีเทนผ่านทางผิวหนัง  

  • ไดคลอโรมีเทนสามารถละลายไขมันในผิวหนังได้ ทำให้ผิวแห้ง แตก ก่อให้เกิดการระคายเคือง ผื่นแดง และเกิดแผลไหม้ได้
  • การปฐมพยาบาลเบื้องต้น ให้ล้างผิวหนังด้วยน้ำปริมาณมาก เป็นเวลาอย่างน้อย 15 นาที 


ภาพที่ 1 แสดงข้อมูลทั่วไปของไดคลอโรมีเทน


หากได้รับไดคลอโรมีเทนผ่านการสูดดม

  • ร่างกายจะทำการเปลี่ยนแปลงทางชีวเคมี (metabolize) โดยเปลี่ยนแปลงไดคลอโรมีเทน ให้กลายเป็นคาร์บอนมอนอกไซด์ ซึ่งเป็นก๊าซพิษ
  • การปฐมพยาบาลเบื้องต้น  ให้ย้ายผู้ประสบเหตุไปในที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์ ถ้าหายใจลำบาก ให้รีบนำส่งแพทย์

ผลกระทบแบบเฉียบพลัน

  • จะมีอาการวิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ แขนขาหนัก อ่อนแรง และอาจทำให้หมดสติได้

ผลกระทบแบบรื้อรัง

  • เป็นสารพิษที่มีผลต่อระบบประสาท (neurotoxin) สามารถทำลายระบบประสาทส่วนกลางและสมองได้
  • เป็นสารก่อเร็ง สามารถก่อให้เกิดมะเร็งที่ปอด ตับและตับอ่อน ในสัตว์ทดลองได้


3ตัวอย่างกฎหมายและข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องกับไดคลอโรมีเทน

กฎหมายและข้อกำหนดในประเทศไทย

  • ตาม พรบ.วัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 และประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เรื่อง บัญชีรายชื่อสารเคมีอันตราย พ.ศ. 2556
    • ไดคลอโรมีเทน จัดเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 1 ตามบัญชี 5.1 (เป็นวัตถุอันตรายที่ก่อให้เกิดผลกระทบน้อย)
  • ตามประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เรื่อง กำหนดงานที่ลูกจ้างทำเกี่ยวกับสารเคมีอันตรายที่นายจ้างต้องจัดให้มีการตรวจสุขภาพของลูกจ้าง พ.ศ. 2564
    • ไดคลอโรมีเทน จัดเป็นสารเคมีอันตรายในกลุ่มสารละลายอินทรีย์ ที่นายจ้างต้องจัดให้มีการตรวจสุขภาพของลูกจ้าง
  • ตามประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เรื่อง ขีดจำกัดความเข้มข้นของสารเคมีอันตราย พ.ศ. 2560
    • ค่าขีดจำกัดความเข้มข้นของไดคลอโรมีเทน เฉลี่ยตลอดระยะเวลาการทำงานปกติ (8 ชั่วโมง) (TLV-TWA) ต้องไม่เกิน 25 ppm
    • ค่าขีดจำกัดความเข้มข้นของไดคลอโรมีเทน สำหรับการสัมผัสในระยะเวลาสั้น ๆ (TLV-STEL, 15 นาที) ต้องไม่เกิน 125 ppm


4ไดคลอโรมีเทนในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

จากข้อมูลของโปรแกรมจัดการข้อมูลสารเคมีและของเสียอันตรายในจุฬา ฯ (ChemTrack&WasteTrack 2016)  ณ วันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 พบว่ามีปริมาณของไดคลอโรมีเทนภายในมหาวิทยาลัย โดยรวมประมาณ 3 ตัน ซึ่งถือว่ามีจำนวนไม่น้อย โดยไดคลอโรมีเทนมีการกระจายอยู่ในห้องปฏิบัติการต่าง ๆ ในส่วนงานสายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ดังนั้น ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในห้องปฏิบัติการ เช่น ผู้ดูแลห้องปฏิบัติการ ผู้ปฏิบัติงาน ควรมีแนวปฏิบัติด้านความปลอดภัยเชิงป้องกันในการทำงานกับไดคลอโรมีเทน เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการทำงาน ลดความเสี่ยงจากอันตรายของไดคลอโรมีเทน และลดผลกระทบของสารต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้ง ร่วมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยเชิงป้องกันทั้งในจุฬาฯ และสังคมไทย


ตัวอย่างแนวปฏิบัติในการทำงานกับไดคลอโรมีเทนในสถานที่ทำงาน1,2

  • ศึกษาข้อมูลด้านความปลอดภัยของไดคลอโรมีเทน จาก SDS และ ฉลากสารเคมี
  • ทำงานกับไดคลอโรมีเทนในพื้นที่ที่มีระบบระบายอากาศที่ดี เช่น ในตู้ดูดควัน
  • ปิดฝาภาชนะทุกครั้งหลังการใช้งาน  
  • มีมาตรการเพื่อลดหรือจำกัดปริมาณในการจัดเก็บ/ การใช้งานไดคลอโรมีเทน โดยให้มีการจัดเก็บ/ การใช้งานไดคลอโรมีเทนเท่าที่จำเป็น
  • จัดเก็บไดคลอโรมีเทนแยกตามความไม่เข้ากันของสารเคมี
  • มีการสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคลที่ถูกต้องและเหมาะสม เช่น หน้ากากกรองอากาศแบบใช้ตลับกรองที่สามารถกันไอของสารอินทรีย์ได้ (ในกรณีที่ระบบระบายอากาศไม่ดี) แว่นครอบตานิรภัย ถุงมือชนิดนีโอพรีน (neoprene)
  • หมั่นตรวจตราอุปกรณ์ เครื่องมือด้านความปลอดภัย เช่น อ่างล้างตาฉุกเฉิน ฝักบัวฉุกเฉิน ชุดอุปกรณ์ทำความสะอาดสารเคมีหกรั่วไหล และถังดับเพลิงอย่างสม่ำเสมอ
  • ป้องกันและจำกัดการเข้าถึงเพื่อไม่ให้นำไดคลอโรมีเทนไปใช้งานผิดวัตถุประสงค์ได้ เช่น ใช้เป็นตัวทำละลายในการผลิตยาเสพติด (โคเคน)


เอกสารอ้างอิง

1. PUBCHEM (2023). Methylene Chloride. [online] pubchem.ncbi.nlm.nih.gov. Available at: https://pubchem.ncbi.nlm.nih.gov/compound/Methylene-chloride. [Accessed 1 Jun. 2023].

2. ECHA.EUROPA.EU. (n.d.). Substance Information ECHA. [online] Available at: https://echa.europa.eu/substance-information/-/substanceinfo/100.000.763 [Accessed 1 Jun. 2023].

3. US EPA, O. (2023). EPA Proposes Ban on All Consumer, Most Industrial and Commercial Uses of Methylene Chloride to Protect Public Health. [online] www.epa.gov. Available at: https://www.epa.gov/newsreleases/epa-proposes-ban-all-consumer-most-industrial-and-commercial-uses-methylene-chloride. [Accessed 1 Jun. 2023].

4. กลุ่มยุทธศาสตร์และกฎระเบียบระหว่างประเทศด้านสารเคมี กองบริหารจัดการวัตถุอันตราย กรมโรงงานอุตสาหกรรม (2021). กฎหมายว่าด้วยการควบคุมสารพิษของประเทศสหรัฐอเมริกา [online] www.diw.go.th Available at: http://reg3.diw.go.th/chem/wp-content/uploads/2021/06/TSCA_กฎหมายควบคุมสารเคมีอเมริกา_เผยแพร่_10June2021.pdf [Accessed 1 Jun. 2023].


 ไดคลอโรมีเทน (Dichloromethane) สารเคมีอันตรายที่ไม่ควรมองข้าม (251 KB)